หลังจากที่ iphone 14 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีผู้คนที่สนใจมาก ๆ ว่าการกลับมาครั้งนี้ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากที่เราได้ดูมาแล้วนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเอาจริง ๆ แล้วเขาก็ยังไม่ได้มีส่วนที่ต่างไปจาก iphone 13 เลยนะ แต่ทาง Apple ก็ได้ทำการเปิดตัวแล้ว เพราะฉะนั้นก็คงจะต้องมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้างแน่ ๆ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบเรื่องของราคาและสเปคระหว่างไอโฟน 14 และไอโฟน 13 มาให้ทุกท่านได้ดูกันเสียเลยว่าเลือกแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากกว่ากัน
ไอโฟน 14 vs ไอโฟน 13 แบบไหนคุ้มกว่ากัน ราคาเท่าไหร่บ้าง
เมื่อ iphone 14 เปิดตัวแล้วก็คงจะมีหลาย ๆ คน ที่เตรียมจองกันเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน แต่ช้าก่อนค่ะอย่าเพิ่งกดจองถ้ายังไม่ได้อ่านข้อมูลของบทความนี้เพราะเราได้รวบรวมข้อมูลของทั้ง ไอโฟน 14 และไอโฟน 13 เอาไว้ให้ทุกท่านได้อ่านแล้วว่าแบบไหนที่จะคุ้มกว่ากัน แล้วราคาของทั้งสองรุ่นนี้จะแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงสเปคเครื่องนั้นจะมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
สเปคเครื่อง iphone 14 (โดยสังเขป)
หน้าจอ
– 6.1 ความละเอียด 2532 x 1170 460ppi
CPU
– A15
RAM
– DDR4X 6GB
ความจุ
– 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง
– 12MP
การเชื่อมต่อ
– 5G, UWB
แบตเตอรี่
– 3279 mAh
ขนาด / น้ำหนัก
– 146.7 x 71.5 x 7.65 / 173 กรัม
ราคาประมาณ (บาท) : 35,220 / 38,900 / 47,850
สเปคเครื่อง iphone 13
จอแสดงผล (Display)
- สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
- จอแสดงผล OLED 24-bit (16 ล้านสี)
– จอแสดงผล HDR 10
– จอแสดงผล Super Retina XDR
– หน้าจอ Notch Display
– กว้าง 6.1 นิ้ว (แนวทะแยง)
– ความละเอียด 1170 x 2532 พิกเซล
(460 ppi)
– Always on display
วัสดุตัวเครื่อง (Body)
- หน้าจอกระจก
- Gorilla Glass
- ด้านหลังเครื่อง กระจก Gorilla Glass
- ขอบเครื่อง อลูมิเนียม
- คุณสมบัติกันน้ำและระบบป้องกัน (Waterproof & Resistance to dust)
– กันน้ำได้ชั่วคราว
– กันน้ำที่ความลึกไม่เกิน 6 เมตร - – ฝุ่นละออง (Resistance to dust)
- ป้องกันรอยนิ้วมือ (Anti-fingerprint display coating)
- มีสีให้เลือก (Colors) : black, white, red, pink, green, blue
เครือข่าย (Network)
- ใช้งาน Nano-SIM
- ใช้งาน eSIM
- เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 3G , 4G, 5G
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
- CPU : Apple : A15 Bionic Hexa Core (2+4)
- ความเร็ว : 3.1 GHz
- GPU : Apple GPU (4-core graphics) , Apple Neural Engine (ANE) : 16-core
- RAM 6GB, ROM 128/256/512GB
กล้องหลัง (Rear Camera)
- กล้องดิจิตอล 12 + 12MP (Ultrawide) ล้านพิกเซล (Dual Camera)
- – รูรับแสงขนาด ƒ/1.6
- – ไฟแฟลช Dual-LED dual-tone flash
- – ซูมดิจิตอล 5 เท่า (5x Digital Zoom)
- – ซูมออฟติคอล 2 เท่า (2x Optical Zoom)
- – ขนาดภาพสูงสุด 4,000 x 3,000 พิกเซล (Image Size)
กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด 12MP
- – กล้องหน้าตัวที่สอง SL 3D (depth/biometrics sensor)
- – รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
- – กล้องหน้า HDR
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
- บันทึกวิดีโอกล้องหลัง
- – บันทึกวิดีโอ Slow Motion ในกล้องหน้า (Slofie)
- – บันทึกวีดีโอระดับ UHD (4K), 24/30/60 เฟรมต่อวินาที
- – ความละเอียดของภาพสูงสุด 3840 x 2160 พิกเซล
- บันทึกวิดีโอกล้องหน้า
- – บันทึกวีดีโอระดับ UHD (4K), 24/25/30/60 เฟรมต่อวินาที
เซ็นเซอร์ (Sensor)
- ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
เชื่อมต่อ
- การหาตำแหน่ง: Assisted GPS
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
- – จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot)
- – เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
มัลติมีเดีย
- ระบบเสียง
- – ลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers)
แบตเตอรี่ – ระบบชาร์จ
- แบตเตอรี่ 3,095 mAh (Standard Battery)
- – รองรับชาร์จไว 25W (Fast Charging)
- การใช้งานแบตเตอรี่
– ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 19 ชั่วโมง (Video playback time)
– ฟังเพลงต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง (Music playback time)
ราคา : 29,900 , 29,900 , 37,900 บาท
ซึ่งในส่วนของเรื่องสเปคที่เราได้เห็นกันไปนี้ก็ถือว่า Iphone 14 มีเรื่องของความจุแบตที่มากกว่าอีกทั้งเรื่องของความจุเครื่องก็ยังมีให้เลือกเยอะกว่า แต่ก็แน่นอนว่ายิ่งความจุเครื่องเยอะมากเท่าไหร่ราคาของเขาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย อีกทั้งเรื่องของสีนั้นรอบนี้ Iphone 14 มาพร้อมกับ 5 สี ด้วยกัน ได้แก่ สีดำกราไฟต์ , สีทอง , สีเงิน , สีน้ำเงินเข้ม , และสีม่วงไล่ระดับสีเมื่อกระทบกับแสง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสีที่มีความล้ำมาก ๆ เลย
ในส่วนของ Iphone 13 นั้น ก็ยังถือว่าเป็นรุ่นที่ยังน่าซื้อมาใช้งานค่ะ เพราะเอาจริง ๆ แล้วเรื่องของชิปประมวลผลรวมไปถึงเรื่องของกล้องและการดีไซน์ต่าง ๆ นั้น ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอยู่ เพราะมีสิ่งที่แตกต่างไปที่เรื่องของความจุนั่นเอง เพราะฉะนั้นใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ก็ลองเปรียบเทียบเรื่องของสเปคและราคาของทั้งสองรุ่นนี้กันดูก่อนเลย
และนี่ก็คือความแตกต่างทั้งเรื่องของสเปคและราคาระหว่างไอโฟน 13 และ ไอโฟน 14 ที่เราได้นำมาสรุปให้ทุกท่านได้ดูกัน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเรื่องของความต่างนั้นคือน้อยมาก ๆ แม้กระทั่งเรื่องของรูปแบบการดีไซน์ ซึ่งเหมือนกับว่า Apple ได้เอา ไอโฟน 13 มา ทำการรีไซเคิลให้เป็นไอโฟน 14 เลยค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่เตรียมจะซื้อไอโฟนรุ่นนี้ก็ต้องลองตัดสินใจกันดูอีกทีนะคะ ไอโฟน 14 vs ไอโฟน 13 เพราะเขาก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งหากใครที่กำลังสนใจใน iphone 14 อยู่ ก็เตรียมกดจองกันได้เลย
อ่านต่อที่ มือถือ